3 ปัจจัย การตลาด สะกดอารมณ์ด้วย เสียงเพลงกลยุทธ์ที่ไม่ควรมองข้าม

เพราะเสียงเพลง เป็นเหมือนหลักจิตวิทยาที่ช่วยบำบัดร่างกาย ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึก  กระตุ้นโหมดอารมณ์ ไม่ว่าจะสนุก สุข เศร้า เหงา เซ็ง ทำให้หลายๆร้านค้า หลากหลายแบรนด์ใหญ่ๆ เลือกใช้ Music Marketing มาเป็นหนึ่งใน กลยุทธ์การตลาด เพื่อพิชิตใจลูกค้า

 Music Marketing การตลาด ที่สร้างการจดจำ 

จริงๆการใช้กลยุทธ์ Music Marketing  อาจจะฟังดูเบสิกทั่วไป แต่บอกเลยว่าผลลัพธ์ที่ได้กลับมานั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะการเลือกใช้เสียงดนตรีมาเป็นส่วนหนึ่งของการทำนั้น สามารถทำให้เกิด Customer Loyalty สร้างความจดจำให้กับธุรกิจร้านค้าได้อย่างแนบเนียน ช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภครู้สึกอยากที่จะซื้อสินค้าหรือมีส่วนร่วมมากขึ้น  แถมยังสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์และร้านค้าอีกด้วย 

ยกตัวอย่าง ร้านสุกี้ตี๋น้อย จุดเด่นของร้านนอกจากราคาที่เข้าถึงง่าย ก็ยังมีเสียงเพลงนี่แหละที่เป็นหนึ่งในภาพจำของลูกค้าหลายๆคน เวลาไปนั่งกินที่ร้านไม่ว่าจะสาขาไหนก็ตาม จะต้องได้ยินเพลงในยุค 90 ทำให้ลูกค้าที่เข้าไปทานรู้สึกมีอารมณ์ร่วม และอยากที่จะกลับมานั่งกินที่ร้านและได้ฟังเพลงเพราะๆไปพร้อมๆกัน 

3 ปัจจัยหลักสะกดอารมณ์ลูกค้าด้วยเสียงเพลง 

ถึงแม้เสียงเพลงจะมีส่วนช่วยในการสร้างการจดจำให้กับลูกค้า สร้างความประทับใจก็จริง  แต่จะเปิดเพลงอะไรนั้นก็ต้องดูปัจจัยอื่นๆในการตัดสินใจเลือกใช้เพลงด้วยเช่นกัน 

1. เปิดเพลงให้เข้ากับบรรยากาศร้านและรูปแบบธุรกิจ

หลักสำคัญเลยคือการเลือกเพลงให้เข้ากับธุรกิจและแบรนด์  อย่างร้านอาหารญี่ปุ่น ก็ควรเลือกใช้เพลง หรือ ดนตรี ให้มี Mood & Tone ที่ไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่เปิดเพลงฝรั่ง มันก็ดูไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไหร่จริงไหม ร้านสปาหรือร้านนวด บรรยากาศร้านมักให้ฟิลแบบอบอุ่นใช้ไฟสีเหลืองดูผ่อนคลาย เสียงเพลงจึงต้องใช้เป็นเสียงบรรเลงดนตรี เสียงจากธรรมชาติ น้ำไหล นกร้อง เพื่อสร้างบรรยากาศให้รู้สึกผ่อนคลายด้วยเช่นกัน

2. จังหวะเสียงเพลง และ ความดัง

เคยสังเกตไหมว่าเวลาที่เราดูไลฟ์สดสินค้า แม่ค้าส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้เพลงที่จังหวะเร็ว และ เปิดเสียงดังเป็นบางช่วงบางตอน ก็เพราะจังหวะและเสียงที่ดังจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ของผู้ซื้อให้รู้สึกตื่นเต้นและสนุกอยากที่จะเอฟสินค้าให้ทัน ซึ่งการใช้จังหวะเพลงที่เร็วหรือช้า เปิดเสียงดังหรือเบา ต้องดูตัวสินค้าและแบรนด์ของเราด้วยนั่นเอง

3. กลุ่มลูกค้าที่เข้าร้าน

ในข้อนี้อาจจะต้องใช้วิธีสังเกตเก็บข้อมูล ว่าร้านของเรา ธุรกิจเรา เป็นกลุ่มคนกลุ่มไหน เพศอะไร อายุเท่าไหร่ ไลฟ์สไตล์แบบไหน ก็จะสามารถช่วยให้สามารถเลือกเพลงที่เข้ากับกลุ่มลูกค้าที่เข้ามา อย่างเช่น หากเป็นร้านคาเฟ่ที่เน้นวัยรุ่น เพลงที่เลือกเปิดอาจจะไม่ยาก แต่หากเป็นวัยทำงานที่เข้าร้านมาเพื่อนั่งทำงาน อาจจะต้องเปิดเป็นเพลงแบบชิลๆ ฟังสบายๆ และไม่เสียงดังเกินไปเพราะอาจจะรบกวนสมาธิการนั่งทำงานได้

ฉะนั้นการใช้เสียงเพลงมาเป็นกลยุทธ์การตลาด เพื่อสร้างการรับรู้และจดจำ ย่อมส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า ลองเอา 3 ปัจจัยในการเลือกใช้ไปปรับให้เข้ากับร้านค้าและแบรนด์ของตัวเอง รับรองเห็นผลแน่นอน หรือให้ Funcrowd เป็นตัวช่วยกับคุณ ด้วยฟีเจอร์จัดเก็บข้อมูลระบบสมาชิก อัพเดทข้อมูลแบบ Real time นำมาวิเคราะห์ได้ตลอด 24 ชม. 

สนใจติดต่อเราได้ที่ 

📌 Website : www.funcrowd.co.th

📌Line OA: @funcrowdth

📌Instagram : https://www.instagram.com/fundcrowdth/