หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหา กลยุทธ์ในการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship Management – CRM) เพื่อเพิ่มยอดขาย และยังสามารถพัฒนาการบริหารจัดการ “ลูกค้า” ผ่านขั้นตอนกระบวนการแบบ “ออนไลน์” ที่สามารถนำทีมขาย ทีมการตลาด และรวมไปถึงทีมบริการลูกค้า เข้ามาทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงระบบระบบ CRM จะเข้ามามีบทบาทอย่างแน่นอน และก่อนจะเริ่ม ขั้นตอน กลยุทธ์ crm มี อะไร บ้าง ? เราจะมาแนะนำกันในวันนี้

ก่อนเริ่ม กลยุทธ์ crm มี อะไร บ้าง ?

ไม่สามารถปฏิเสธได้แน่นอนว่าในปัจจุบันทันด่วนเช่นนี้ กลยุทธ์ ต่างๆ ถูกนำมาใช้อย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่องทาง “ออนไลน์” ทำให้หลายธุรกิจจากที่ไม่เคยทำการตลาดแบบออนไลน์ ต้องหันมามองอย่างพินิจพิเคราะห์ และสุดท้ายก็ต้อง “Go Online” อย่างไม่ต้องสงสัย จะช้า หรือ จะเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
และ ระบบ CRM ก็กลายมาเป็นพระเอกของงานนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หากมีระบบ แต่ไม่ต่อยอดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อให้ระบบดีแค่ไหน ก็ไม่สามารถสร้างยอดขายให้เป็นกอบเป็นกำได้อย่างแน่นอน วันนี้เราจะมาแนะนำ เจาะลึก กลยุทธ์ที่สามารถนำมาปรับใช้กับระบบ CRM ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถเพิ่มยอดขายได้แน่นอน

ทำความเข้าใจผลิตภัณฑ์ของธุรกิจ

หลายธุรกิจแม้นจะประกอบกิจการมานานหลายปี คิดว่าเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์ หรือบริการได้อย่างทะลุปรุโปร่ง แต่กลับโดนคู่แข่งที่มาที่หลังแย่งลูกค้าไปหมด ทำให้ยอดขายตกฮวบ ทั้งๆ ที่สินค้า หรือ บริการ ก็มีความเหมือนกันแต่เหตุใดลูกค้าถึงเลือกที่จะไปซื้อ ไปใช้บริการกับคู่แข่งมากกว่า ถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำ จำเป็นต้อง พัฒนามุมมอง สิ่งที่เราพยายามสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน ทำไมลูกค้าควรเลือกผลิตภัณฑ์หรือบริการจากเราแทนที่จะไปเลือกคู่แข่ง รวมไปถึงความเข้าใจที่ตรงกันภายในองค์กรเองด้วย

วิเคราะห์ข้อมูลของกลุ่มลูกค้าเก่า

ก่อนที่จะเริ่มการ Go Online หลายธุรกิจอาจจะยังไม่ทราบว่า แท้จริงแล้ว “ลูกค้า” ของตนเอง เป็นกลุ่มไหนกันแน่? มีช่วงอายุประมาณเท่าไหร่ เพศไหน และความสนใจร่วมกันเป็นเช่นไร สิ่งนี้ทำให้หลายธุรกิจมักจะมีแต่ลูกค้าใหม่ เพราะแทบไม่สามารถมุ่งเป้าไปยังลูกค้าเก่า ไม่สามารถ Re-Target ลูกค้ากลุ่มเดิมได้เลย ดังนั้นการหันกลับมามองข้อมูลกลุ่มลูกค้าเก่า จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งก่อนที่จะเริ่มกระบวนการ กลยุทธ์ crm

กำหนดกลุ่มเป้าหมาย

หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มลูกค้าเก่าแล้ว เราจะสามารถทราบได้ว่า กลุ่มเป้าหมาย ที่สำคัญจะเป็นกลุ่มไหนเป็นพิเศษ ทำให้การกำหนดกลุ่มเป้าหมายเพื่อวางกลยุทธ์ทำได้ง่ายขึ้น และยังสามารถมองหากลุ่มเป้าหมายที่ใกล้เคียงกันได้ เพราะสินค้าส่วนใหญ่ จะมีกลุ่มเป้าหมายมากกว่า 1 กลุ่ม อย่างเช่นกลุ่มสินค้าเกี่ยวกับ “Skin Care” ก็จะมีกลุ่มเป้าหมายที่ค่อนข้างชัดเจน ก็คือกลุ่มคนที่ดูแลตัวเอง หรือ เริ่มหันมาดูแลสุขภาพผิว หรือกลุ่มที่มีความกังวลกับความหมองคล้ำ หรือกลุ่มที่กังวลกับสิว เพื่อทำให้โปรโมชั่นให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุดนั่นเอง

ศึกษาเทรนตลาด รู้ตำแหน่งของตัวเอง

หลังจากทราบกลุ่มเป้าหมายที่ค่อนข้างชัดเจนแล้ว ถัดไปก็คือการเริ่มศึกษา และวิเคราะห์เทรนการตลาดในปัจจุบัน หรือ “Market Trends” เพื่อที่จะค่อนข้างง่ายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการในขั้นตอนถัดไป สามารถทราบถึงแนวโน้มในตลาดอนาคตได้อีกด้วย และหนึ่งในสิ่งสำคัญหลังจากการที่ศึกษาตลาดแล้ว เราจะสามารถทราบถึง “ตำแหน่ง” ของแบรนด์ตนเองได้คร่าวๆ ว่าเรามีคู่แข่งคือใครบ้าง ตำแหน่งอยู่ประมาณไหน ทำให้สามารถเรียนรู้ที่จะรับมือกับคู่แข่งได้อย่างดี สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้

ระบบ CRM ที่เหมาะสม

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น หลายบริษัทที่ยังไม่เริ่มเข้าสู่โลกของ “ออนไลน์” อาจจะยังไม่ทราบว่าระบบ CRM คืออะไร ระบบ CRM ก็คือ Customer Relationship Management เป็นระบบบริหารความสัมพันธ์อันดีระหว่างร้านค้ากับลูกค้า ช่วยให้บริหารจัดการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหากบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กับการวางกลยุทธ์ได้อย่างถูกจัด จะทำให้เกิดการซื้อซ้ำอย่างไม่รู้จบ จากลูกค้าที่เคยเข้ามาใช้บริการ หรือซื้อผลิตภัณฑ์ เกิดความผูกพันต่อสินค้าหรือแบรนด์ ที่เราเรียกว่า Brand Loyalty

และ Funcrowd คือระบบ CRM ที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างครบถ้วนทุกกระบวนท่า

สนใจตัวช่วยทางการตลาด ติดต่อเราได้ที่
Website : www.Funcrowd.co.th
LineOA: @Funcrowdth
Instagram : https://www.instagram.com/fundcrowdth/