แนะนำการใช้งาน

IoT คืออะไร

ลองจินตนาการถึงโลกที่ตู้เย็นของคุณสามารถสั่งนมที่ใกล้จะหมดได้เอง นาฬิกาข้อมือแนะนำแผนการออกกำลังกายที่เหมาะกับคุณในวันนั้น หรือรถยนต์ของคุณแจ้งเตือนให้เข้ารับ การบริการ ก่อนที่อะไหล่จะเสีย นี่ไม่ใช่เรื่องราวในหนังไซไฟอีกต่อไป แต่คือความเป็นจริงที่เกิดขึ้นแล้วใน ยุคแห่ง Internet of Things (IoT) ซึ่งกำลังปฏิวัติวิธีการที่แบรนด์จะสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าไปอย่างสิ้นเชิง มันคือการเปลี่ยนจากการสื่อสารทางเดียวไปสู่บทสนทนาที่ต่อเนื่องและ “รู้ใจ” อย่างแท้จริง บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่าการตลาดในยุค IoT คืออะไร มีกลยุทธ์สำคัญอย่างไร และแบรนด์ชั้นนำระดับโลกใช้ประโยชน์จากมันเพื่อสร้างความสำเร็จได้อย่างไร

Internet of Things – IoT คืออะไร?

ก่อนจะไปไกลกว่านี้ เรามาทำความเข้าใจหัวใจของการเปลี่ยนแปลงนี้กันก่อน Internet of Things หรือ IoT คือเครือข่ายของอุปกรณ์และสิ่งของต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน รถยนต์ ไปจนถึงเครื่องจักรในโรงงาน ที่ถูกฝังเซ็นเซอร์และเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถเก็บและแลกเปลี่ยนข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ พูดง่ายๆ คือการทำให้ “สิ่งของ” ต่างๆ ฉลาดขึ้นและพูดคุยกันเองได้โดยไม่ต้องผ่านมนุษย์ ความสำคัญของมันต่อการตลาดคือ IoT ได้ทลายกำแพงระหว่างแบรนด์กับลูกค้าลงอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่แบรนด์ต้องคาดเดาพฤติกรรมลูกค้าผ่านแบบสำรวจ ตอนนี้แบรนด์สามารถรับรู้ได้ทันทีว่าผลิตภัณฑ์ของตนถูกใช้งาน อย่างไร ที่ไหน และเมื่อไหร่ ข้อมูลที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องนี้เองที่กลายเป็นขุมทรัพย์ล้ำค่าสำหรับนักการตลาดในการสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่า

เมื่อการตลาดแบบเดิมใช้ไม่ได้อีกต่อไป

การตลาดในยุค IoT คือการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกัน เพื่อทำความเข้าใจและสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าแบบเรียลไทม์ โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่สอดคล้องกับบริบทของลูกค้า ณ ขณะนั้น ดังนั้นการปรับตคัวให้ทันกับยุคสมัย ปรับเปลี่ยนการตลาดใหม่ๆ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ของธุรกิจ

การเปลี่ยนผ่านสู่การตลาดเชิงรุก

การตลาดแบบดั้งเดิมมักเป็นเชิงรับ คือรอให้ลูกค้าแสดงความต้องการก่อนแล้วจึงตอบสนอง แต่ IoT ทำให้การตลาดกลายเป็น เชิงรุกและสามารถ คาดการณ์ ความต้องการได้

  • แบบดั้งเดิม คุณเห็นโฆษณารถยนต์ในทีวี แล้วจึงไปที่โชว์รูม
  • แบบ IoT รถยนต์ของคุณตรวจพบว่ายางใกล้มีปัญหา และแจ้งเตือนคุณพร้อมแนะนำศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุดพร้อมส่วนลดพิเศษ

Touchpoints ที่มากกว่าแค่หน้าจอ

ความสนใจของผู้บริโภคไม่ได้จำกัดอยู่แค่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนอีกต่อไป แต่กระจายไปยังอุปกรณ์รอบตัว สิ่งนี้ได้สร้างจุดสัมผัสใหม่ๆ ที่นักการตลาดสามารถใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารได้

  • บ้านอัจฉริยะ (Smart Home) ตู้เย็นที่แนะนำสูตรอาหารจากวัตถุดิบที่มี หรือระบบไฟที่เปลี่ยนสีตามอารมณ์เพลง
  • อุปกรณ์สวมใส่ (Wearables) นาฬิกาอัจฉริยะที่เก็บข้อมูลสุขภาพ ทำให้แบรนด์สุขภาพสามารถเสนอแผนการดูแลส่วนบุคคลได้
  • รถยนต์ที่เชื่อมต่อ (Connected Cars) รถยนต์กลายเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถนำเสนอบริการตามตำแหน่งที่ตั้งและพฤติกรรมการขับขี่
  • ร้านค้าปลีกอัจฉริยะ (Smart Retail) การใช้บีคอน (Beacon) ส่งโปรโมชันเข้ามือถือเมื่อลูกค้าเดินผ่านสินค้าที่สนใจ

แบรนด์ที่ใช้ IoT พลิกเกมการตลาด

ทฤษฎีอาจฟังดูซับซ้อน แต่การนำไปใช้จริงนั้นสร้างผลลัพธ์ที่น่าทึ่งให้กับแบรนด์ชั้นนำมากมาย และหนึ่งในรูปแบบที่ทรงพลังที่สุดคือการเปลี่ยนจากการขายของครั้งเดียวจบ ไปสู่การให้บริการแบบต่อเนื่อง

  • HP Instant Ink แต่เดิมการขายเครื่องพิมพ์และหมึกเป็นโมเดลแบบ “มีดโกนกับใบมีด” แต่ HP ได้เปลี่ยนเกมด้วยบริการ Instant Ink โดยใช้เซ็นเซอร์ในเครื่องพิมพ์ตรวจจับระดับหมึก เมื่อหมึกใกล้หมด ระบบจะสั่งซื้อและจัดส่งหมึกใหม่ให้โดยอัตโนมัติ ลูกค้าจ่ายค่าบริการรายเดือนและได้ความสะดวกสบายที่ไม่ต้องกังวลว่าหมึกจะหมด ส่วน HP ก็ได้ความสัมพันธ์โดยตรงกับลูกค้าและรายได้ที่สม่ำเสมอ
  • Tesla ไม่ได้ขายแค่รถยนต์ แต่ขายประสบการณ์การเดินทางที่อัปเกรดได้ตลอดเวลา รถยนต์ Tesla ทุกคันเชื่อมต่อกับบริษัทและส่งข้อมูลกลับไปเพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพ ทำให้ Tesla สามารถส่งอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ผ่านระบบออนไลน์ (Over-the-Air) เพื่อเพิ่มฟีเจอร์หรือแก้ไขปัญหาได้ทันที ที่สำคัญคือระบบสามารถคาดการณ์การบำรุงรักษาและแจ้งเตือนให้เจ้าของนำรถเข้าศูนย์บริการได้ก่อนที่ปัญหาจะเกิด

ผสานโลกออนไลน์และออฟไลน์

  • Kroger และชั้นวางของอัจฉริยะ ซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ ติดตั้งชั้นวางของอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันในมือถือของลูกค้า เมื่อลูกค้าเดินเข้าไปใกล้สินค้าที่อยู่ในรายการซื้อของ ชั้นวางจะสว่างขึ้นเพื่อนำทาง นอกจากนี้ยังช่วยให้ Kroger จัดการสต็อกสินค้าได้แบบเรียลไทม์ ลดปัญหาสินค้าหมดชั้นวาง

การตลาดสู่ตัวตนที่วัดผลได้

อุปกรณ์สวมใส่ได้กลายเป็นช่องทางสำคัญในการทำการตลาดที่ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากที่สุด

  • Fitbit และ Apple Watch อุปกรณ์เหล่านี้เก็บข้อมูลสุขภาพและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ รูปแบบการนอน จำนวนก้าวที่เดิน ข้อมูลเหล่านี้เปิดโอกาสให้แบรนด์สุขภาพและความงามสามารถนำเสนอแผนการออกกำลังกาย คำแนะนำด้านโภชนาการ หรือผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ บริษัทประกันบางแห่งถึงกับเสนอส่วนลดเบี้ยประกันให้กับผู้ที่บรรลุเป้าหมายการออกกำลังกายโดยใช้ข้อมูลจากอุปกรณ์เหล่านี้เป็นเครื่องยืนยัน

อนาคตของการตลาด IoT และสิ่งที่ธุรกิจต้องเตรียมพร้อม

การตลาดในยุค IoT กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยมีเทคโนโลยีอย่าง 5G ที่จะทำให้การสื่อสารเร็วขึ้นและมีความหน่วงต่ำ และ AI เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) ที่จะสามารถสร้างเนื้อหาโฆษณาหรือข้อเสนอที่เฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้าแต่ละรายได้แบบอัตโนมัติ เข้ามาเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา

สำหรับธุรกิจที่ต้องการก้าวเข้าสู่โลกของ IoT Marketing ควรเริ่มต้นจากสิ่งเหล่านี้

  1. สร้างรากฐานข้อมูลที่แข็งแกร่ง หัวใจของ IoT คือข้อมูล การลงทุนในระบบที่สามารถรวบรวมและจัดการข้อมูลลูกค้าจากทุกช่องทางได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
  2. เริ่มต้นจากกรณีศึกษาที่มีคุณค่า ไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างพร้อมกัน ลองเลือกใช้กลยุทธ์กับส่วนเล็กๆ ที่วัดผลได้ชัดเจนก่อน เพื่อพิสูจน์คุณค่าและสร้างแรงผลักดันในองค์กร
  3. ให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและความเป็นส่วนตัว การใช้ข้อมูลลูกค้าต้องทำอย่างระมัดระวังและโปร่งใส การสร้างความไว้วางใจเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ลูกค้ายินดีที่จะแบ่งปันข้อมูลแลกกับประสบการณ์ที่ดีขึ้น
  4. มองเป็นการเดินทาง ไม่ใช่แค่แคมเปญ การตลาด IoT คือการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ที่ต้องมีการเรียนรู้และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

บทสรุป

Internet of Things ไม่ใช่แค่เทรนด์เทคโนโลยี แต่คือการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานที่กำลังกำหนดอนาคตของการตลาด มันเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าจากการซื้อขายธรรมดาให้กลายเป็นบทสนทนาที่ต่อเนื่องและรู้ใจ แบรนด์ที่สามารถปรับตัวและใช้ประโยชน์จากโลกที่เชื่อมต่อกันนี้ได้ จะไม่เพียงแค่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน แต่ยังสามารถสร้างความภักดีจากลูกค้าได้อย่างยั่งยืนในทศวรรษหน้า

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า