Rich Menu คือ หนึ่งในฟีเจอร์บน LINE Official Account  ถือได้ว่าเป็นฟีเจอร์หนึ่งที่โดดเด่นเตะตาลูกค้า ใช้งานง่าย สามารถปรับแต่งและออกแบบได้ตามใจชอบ ทำให้ธุจกิจต่างๆ นิยมนำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ ซึ่ง Rich Menu ไม่เพียงแต่สามารถทำให้ลูกค้าสามารถติดต่อสื่อสารกับแบรนด์ได้ง่ายขึ้นเท่านั้นแต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแบรนด์ในด้านอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งนอกจากประโยชน์ดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้วเรามาดูกันว่า Rich Menu ดีอย่างไรต่อธุรกิจอีกบ้าง

Rich Menu คืออะไร

Rich Menu คือ ปุ่มเมนูที่แสดงผลอยู่บนหน้าแช็ต (Chat) ของ LINE Official Account ซึ่งเป็นเมนูลัดที่แสดงในแช็ตระหว่างแบรนด์กับลูกค้าทุกคน สามารถมาประยุกต์ใช้ในการขายสินค้าแทนเจ้าของแบรนด์ได้และช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ของแบรนด์ได้รวดเร็วขึ้น ผ่านเมนูที่ครีเอทขึ้นมา สูงสุด 6 เมนู

ออกแบบ Rich Menu อย่างไรให้ดึงดูดลูกค้า

เทคนิคการออกแบบ Rich Menu เป็นสิ่งสำคัญมากที่ผู้ประกอบการต้องรู้ เพื่อให้การออกแบบ Rich Menu มีความสวยงาม น่าสนใจ ง่ายต่อการใช้งานและตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน

1.ใช้เทมเพลตที่เหมาะสม

เราสามารถออกแบบเทมเพลตบน Rich Menu ได้ตามใจชอบ โดยมีแบบเทมเพลตให้เลือกออกแบบได้ทั้งหมด 12 แบบ แต่ทั้งนี้จะต้องเลือกเทมเพลตให้เหมาะสม เพราะเมื่อออกแบบ Rich Menu ออกมา จะได้รองรับกับการทำงานของแต่ละช่องได้

2.ทำงานร่วมกับฟีเจอร์อื่นได้ดี

นอกจากนี้แล้วธุรกิจยังสามารถใช้งาน Rich Menu ร่วมกันกับฟีเจอร์ของ LINE ตัวอื่นๆ ได้ เช่น

ฟีเจอร์บัตรสะสมแต้ม (Reward Card)

ฟีเจอร์บัตรสะสมแต้ม บางคนอาจจะสามารถเรียกว่าเป็น loyalty program คือ นอกจากจะช่วยให้ธุรกิจสามารถรักษาฐานลูกค้าไว้ได้แล้ว ยังสามารถช่วยดึงดูดและกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย 

ฟีเจอร์คูปอง (Coupon)

เป็นการใช้คูปองเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าได้เร็วขึ้น จากตอนแรกที่ลูกค้ายังไม่สนใจซื้อสินค้าของเราเมื่อมีการเสนอคูปอง จะทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจและสามารถกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้เร็วขึ้นอีกด้วย โดยคูปองที่จะใช้ในการกระตุ้นยอดขายก็สามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น ฟรี, ให้ส่วนลด,ให้ของขวัญและอื่นๆ อีกมากมาย 

3.โทนสีต้องไปในทางเดียวกัน

สี เป็นอีกอย่างที่จะทำให้ลูกค้าสามารถจดจำแบรนด์ได้ การเลือกโทนสีใน Rich Menu ให้เหมาะกับแบรนด์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน ตัวอย่างเช่น

• ธนาคาร : กสิกรไทย (สีเขียว) , ไทยพานิชย์ (สีม่วง) , กรุงเทพ (สีน้ำเงิน)
• สายการบิน : แอร์เอเชีย (สีแดง) , การบินไทย (สีม่วง) , นกแอร์ (สีเหลือง)
• เครือข่ายมือถือ : AIS (สีเขียว) , TRUE (สีแดง) , DTAC (สีฟ้า)

4.แต่ละเมนูต้องมีความต้องการใช้งาน

การออกแบบ Rich Menu โดยไม่คำนึงถึงการใช้งาน ต่อให้ออกแบบมาสวยแค่ไหน ก็ไม่มีใครต้องการใช้งานอยู่ดี ดังนั้นก่อนออกแบบ Rich Menu ต้องพิจารณาก่อนเสมอว่า การบริการ ใดที่ผู้ใช้งานจะคลิกเข้าไปใช้งาน เมื่อคุณทราบแล้วก็นำบริการนั้นมาสร้างเป็น Rich Menu เพื่อให้ตรงใจต่อผู้ใช้งานได้

เพิ่มยอดขายจากการสร้าง Rich Menu ได้อย่างไร

Rich Menu สามารถเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้ เพียงแค่ธุรกิจสร้างโปรโมชั่นหรือกิจกรรมพิเศษขึ้นมาแล้วแล้วใส่แบนเนอร์โปรโมชั่นเด่น ๆ ลงไป  เช่น การกดรับโคดส่วนลดใน LINE OA แล้วแจ้งโคดกับแอดมินเพื่อรับส่วนลด 15% เป็นต้น เพียงแค่นี้คุณก็สามารถเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้แล้ว แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลคุณอย่าลืม อัปเดต Rich Menu ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ อย่างเช่น การเปลี่ยนโปรโมชั่น  หมดเขตโปรโมชั่น หรืออื่นๆ  เพราะถ้า Rich Menu ยังคงเป็นข้อมูลเก่าอยู่ ก็จะทำให้ลูกค้าไม่สามารถติดต่อกับแบรนด์ได้ เกิดความเข้าใจผิดหรือมองแบรนด์ในแง่ลบไปเลย

Rich Menu ดีต่อธุรกิจอย่างไร

 ถือได้ว่า Rich Menu เป็นฟีเจอร์หนึ่งที่สำคัญในการทำธุรกิจเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากจะเป็นตัวกลางในการติดต่อ โดยเป็น การสื่อสาร กันระหว่างแบรนด์กับลูกค้าแล้ว Rich Menu ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแบรนด์ในด้านอื่นๆ อีกด้วย

ติดต่อแบรนด์ได้สะดวก ฉับไว

Rich Menu ทำให้แบรนด์สามารถติดต่อกับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งลูกค้าสามารถกดเลือก Rich Menu เมื่อต้องการทราบข้อมูลหรือต้องการติดต่อสื่อสารกับธุรกิจได้ทันที โดยที่ลูกค้าไม่ต้องพิมพ์ให้เสียเวลา อีกทั้งยังไม่ต้องรอให้ทางแบรนด์มาตอบคำถามอีกด้วยถือได้ว่าเป็นการอำนวยความสะดวกสบายให้กับทั้งสองฝ่ายได้ในคราวเดียวกัน

ช่วยนำทางลูกค้า ให้เจอสิ่งที่ต้องการง่ายขึ้น

คำถามใดที่ลูกค้าถามบ่อยๆ แบรนด์ก็สามารถนำคำถามนั้นมาทำเป็น Rich Menu ได้ โดยการใส่ลิงก์ปลายทางไว้บน Rich Menu เมื่อลูกค้ากดเข้าไปก็จะนำลูกค้าไปที่หน้าเว็บไซต์นั้นทันที เช่น ช่องยูทูปของแบรนด์ บทความของแบรนด์หรือหน้าเว็บไซต์ของแบรนด์ เป็นต้น

จดจำแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น

การทำ Rich Menu เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถทำให้ลูกค้าสามารถจดจำแบรนด์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น จากการกำหนดโทนสีที่สื่อถึงตัวแบรนด์ เมื่อลูกค้ามองเห็นเพียงแค่สีก็สามารถนึกชื่อแบรนด์ออกแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ธนาคารกสิกร ใช้สีเขียวเป็นหลัก ไปรษณีย์ไทยใช้สีแดงเป็นหลักหรือ Kerry ใช้สีส้มเป็นหลัก เป็นต้น

สร้างยอดขายให้กับธุรกิจ

ฟีเจอร์ Rich Menu ยังสามารถใช้ในการกระตุ้นยอดขายให้กับธุรกิจได้มากยิ่งขึ้นด้วยการใช้งานร่วมกันกับฟีเจอร์อื่นๆ ของทาง LINE OA เช่น การทำปุ่ม Rich Menu พาไปยังเว็บไซต์ของคุณเอง หรือพาไป Myshop การใช้คูปอง LINE เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้า การทำระบบสมาชิกให้ลูกค้าสมัครสมาชิกผ่าน Rich Menu เป็นต้น

สร้างสัมพันธ์ที่ดี (CRM)

CRM หรือ Customer Relationship Management เป็นระบบบริหารความสัมพันธ์อันดีระหว่างธุรกิจกับลูกค้า ซึ่งในปัจจุบันนี้มีการเชื่อมต่อ LINE เข้ากับระบบ CRM หรือที่เราเรียกกันว่า LINE CRM ซึ่ง LINE CRM คือ การทำระบบ CRM (Customer RelationshipManagement) เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน LINE เชื่อมโยงข้อมูลการเข้าระบบเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานของผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจ ในการจัดการข้อมูลได้ครบจบเพียงไม่กี่ขั้นตอน เพียงแค่มี Line Official Account อีกทั้งยังสามารถทำได้อีกหลายกิจกรรมในเวลาเดียวกัน เช่น พูดคุยกับลูกค้า ซื้อขายของออนไลน์ ลงทะเบียนสมาชิก สะสมคะแนน แลกคะแนน ลงเวลานัดหมาย ฯลฯ โดยระบบ LINE CRM ของ Funcrowd ออกแบบและตอบโจทย์ การตลาดออนไลน์ ยุคปัจจุบันที่ไม่ได้มีเพียงซื้อขายเท่านั้น แต่ยังสามารถให้ ผู้ประกอบการ ได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าอีกด้วย 

 

สรุป Rich Menu

เรียกได้ว่า Rich Menu เป็นเครื่องมือที่เข้ามาตอบโจทย์และช่วยอำนวยความสะดวกให้ในทางธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ซึ่งฟีเจอร์นี้นอกจากจะช่วยในการติดต่อสื่อสารระหว่างธุรกิจกับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังสามารถเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจในด้านอื่นๆ อีกด้วย ถือได้ว่า Rich Menu เป็นฟีเจอร์ที่สำคัญและเหมาะมากที่นำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันนี้ 

 

 

ยังไม่มีระบบ CRM ? Funcrowd ช่วยได้ เพราะเรามีระบบ CRM ที่สามารถตอบโจทย์ธุรกิจของคุณได้อย่างแน่นอน อย่ารอช้า!ติดต่อเราได้ที่
Line : https://lin.ee/5VMoPga
Facebook : www.facebook.com/FunCrowdTH
Instagram : https://www.instagram.com/fundcrowdth/