ก่อนหน้านี้หากจำกันได้ กรณีคดีดังร้านอาหารแหลมเกตบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดขายคูปองบุฟเฟ่ต์จำนวนมากในราคาถูกกว่าต้นทุน ซึ่งเป็นเคสลักษณะเดียวกับดารุมะ Daruma Sushi บุฟเฟ่ต์แซลมอน ที่ก็ขายคูปองในราคาที่ถูกกว่าที่ควรจะเป็น และเน้นขายคูปองให้กับลูกค้ามากกว่าการให้ลูกค้า Walk In มาที่หน้าร้านเลย จนเกิดผลกระทบ ที่ไม่สามารถรับมือกับภาวะขาดทุนได้ ซึ่งเคสนี้ต้องบอกเลยว่าเกิดจากการทำ โปรโมชั่น โดยขาดความระมัดระวัง ถือเป็นบทเรียนให้กับร้านค้าและเจ้าของธุรกิจอีกหลายๆธุรกิจ หากคิดจะทำแคมเปญการตลาด คูปองอาหารส่วนลด โปรโมชั่นต่างๆ ต้องคิดคำนวณให้ถี่ถ้วนก่อน

คูปองส่วนลด เทคนิคการขายที่เพิ่มยอดขายอย่างรวดเร็ว

แน่นอนแหละว่าการทำโปรโมชั่น ขายคูปอง มีผลลัพธ์ออกมาได้ทั้งสองด้าน ในแง่ของด้านบวก สามารถเพิ่มยอดขายได้จริง ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาสนใจในสินค้าของร้านเรา ดึงดูดลูกค้าใหม่ๆได้อย่างรวดเร็ว และลูกค้าเก่ากลับมาใช้บริการซ้ำ แต่ในด้านลบนั้น หากการขายคูปอง และ การทำโปรโมชั่น หากขาดความรอบคอบ ย่อมเกิดผลเสียที่ตามมามากกว่าผลดีเสียอีก

 

1.หาจุดหลักในการทำโปรโมชั่น

ก่อนที่จะคิดโปรโมชั่นต่างๆ เราต้องรู้ก่อนว่าเราจะทำโปรโมชั่นนี้เพื่ออะไร ไม่ว่าจะเป็นเพื่อเปิดตัวสินค้าใหม่ให้เป็นที่รู้จักกับกลุ่มลูกค้าใหม่ หรือเพื่อตอบแทนลูกค้าให้พึงพอใจและกลับมาซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นอีก เป็นลูกค้าประจำของร้าน (Loyaty Customer) ดังนั้นก่อนออกแบบโปรโมชั่น เราควรหากลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อทำให้รู้ว่าการทำโปรโมชั่นในครั้งนี้เราจะได้อะไรกลับมา

2.คำนวณต้นทุนก่อนการทำการตลาด

เราเข้าใจเจ้าของธุรกิจทุกคนย่อมมีเหตุผลที่จัดทำแคมเปญการตลาด ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลด โปรโมชั่นต่างๆนั้น วัตถุประสงค์เพื่อต้องการผลกำไร และมียอดขายที่ดี แต่สิ่งที่ต้องระวังคือการคำนวณต้นทุนของการทำโปรโมชั่นในครั้งนั้นก่อนว่า ทำไปแล้วจะขาดทุนหรือไม่ แล้วได้กำไรมากเท่าไหร่ ท่องเอาไว้ว่า ‘กำไรน้อยลงได้ แต่อย่าขาดทุนก็พอ’ เพราะการขาดทุนสะสมย่อมส่งผลกับธุรกิจในอนาคตอย่างแน่นอน

3.เตรียมพร้อมในเรื่องสินค้าและวัตถุดิบ

หากคิดจะทำโปรโมชั่นแล้ว ต้องเช็คสินค้าและวัตถุดิบต่างๆให้ดี ต้องมีจำนวนเพียงพอ ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นร้านอาหารที่จัดโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์กินได้ไม่อั้น ต้องสต๊อกสินค้าให้มีมากเพียงพอกับความต้องการของลูกค้า เพราะถ้าสินค้าหมดไม่สามารถยกเสิร์ฟออกมาได้ ย่อมเกิดผลเสียทางความรู้สึกของลูกค้าที่มาทาน และส่งผลกระทบทางลบ แทนที่โปรโมชั่นจะดึงดูดใจดึงลูกค้า กลับกลายเป็นตีกลับลูกค้าหนีหายแทน

4.ระยะเวลาแคมเปญ

เราควรกำหนดขอบเขตเวลาการจัดโปรโมชั่นที่ชัดเจน เพราะนอกจากจะดึงดูดให้ลูกค้ารีบตัดสินใจแล้ว ยังช่วยจำกัดขอบเวลาในการทำโปรโมชั่นของเราเอง ไม่ควรมีระยะเวลาที่สั้นหรือยาวจนเกินไป เพื่อให้เราสามารถคำนวณต้นทุน และปริมาณวัตถุดิบได้ เหมือนที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้

5.ความถี่ของโปรโมชั่น ส่วนลด

การจัดโปรโมชั่นลดราคา หรือการขายคูปองอาหารที่ราคาถูกออกมาอยู่บ่อยๆ แม้ว่าจะช่วยให้เป็นที่น่าสนใจสำหรับลูกค้า มีผลตอบรับที่น่าพึงพอใจ แต่ก็เป็นเหมือนดาบสองคม ที่อาจกลับย้อนมาที่เจ้าของธุรกิจเองได้ เพราะลูกค้าอาจจะรอซื้อเพียงแค่ช่วงเวลาที่จัดโปรโมชั่นเท่านั้น รวมไปถึงหากเรามีคู่แข่งทางการตลาดในธุรกิจเดียวกัน ถ้าโปรโมชั่น หรือ คูปอง ของเราไม่ดีพอ อาจทำให้ลูกค้าประจำของเรากลับกลายเป็นลูกค้าใหม่ของธุรกิจคู่แข่งก็เป็นได้

 

ดังนั้นแล้ว เจ้าของธุรกิจทั้งหลาย หากคิดจะทำโปรโมชั่น ควรศึกษาและระมัดระวังให้รอบคอบก่อน แต่ถ้าอยากสะดวกมากขึ้น หลีกเลี่ยงความเสี่ยง ลองเลือกใช้ Funcrowd ระบบ CRM เข้ามาช่วยในแง่ของDatabase ของลูกค้าผ่านระบบสมาชิกออนใลน์ครบวงจร เพื่อนำฐานข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์ว่าธุรกิจของเราควรออกแบบโปรโมชั่นแบบไหนดีถึงจะตรงใจลูกค้า เราควรใช้ส่วนลดแบบไหนถึงจะตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

อย่ารอช้า!ติดต่อเราได้ที่
Line : https://lin.ee/5VMoPga
Facebook : www.facebook.com/FunCrowdTH
Instagram : https://www.instagram.com/fundcrowdth/