ร้านของชำ

ในยุคนี้เราคงจะเห็น “ร้านโชห่วย” หรือ ร้านของชำ ค่อยๆ ทยอยปิดตัวลงไปตามๆ กัน จริงอยู่ที่ร้ายขายของชำมักอยู่ภายในชุมชนทำให้สะดวกในการเดินทาง มีสินค้าแบ่งขายและราคาถูก แล้วทำไมยังเจ๊งอยู่ล่ะ ซึ่งจริงๆ แล้วยังมีข้อจุดบกพร่องอื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้ร้านขายของชำไม่สามารถยืนหยัดอยู่ในยุคนี้ได้ อีกทั้งยังมีคู่แข่งค่อนข้างเยอะ ทั้งร้านสะดวกซื้อ ทั้งซูเปอร์มาเก็ตและยังต้องมาแข่งขันกับร้านขายของชำด้วยกันเองอีก ยังไม่ได้พูดถึง พฤติกรรมผู้บริโภค ที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตเยอะมาก เรียกได้ว่าร้านใดที่ไม่แข็งแกร่งพอก็อยู่ไม่ได้ในยุคนี้ ในวันนี้เรามาหาคำตอบกันว่าจะทำอย่างไรให้ร้านขายของชำเล็กๆ ของคุณสามารถปรับตัวอยู่รอดต่อไปได้และมีความมั่นคง เติบโตขึ้นได้ในอนาคต

เปิด ร้านชำ ทำอย่างไร

การเปิดร้านขายของชำในยุคที่มีร้านสะดวกซื้อเกิดขึ้นอยู่ประปรายทั่วไปนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่สำหรับใครที่มีแพลนจะเปิดร้านขายของชำคุณต้องหาความรู้และเตรียมตัวเป็นอย่างดี เพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้

ศึกษาตลาดและ ร้านของชำคู่แข่ง

แน่นอนว่าสิ่งแรกที่คุณจะต้องทำก่อนที่จะตัดสินใจเปิดร้านขายของชำเป็นของตัวเองนั่นคือ การศึกษาตลาดว่าผู้บริโภคต้องการสินค้าแบบใดและต้องศึกษาคู่แข่งที่อยู่ในละแวกเดียวกันหรือละแวกใกล้เคียงว่าเป็นอย่างไร ถ้าเราเปิดร้านแล้วจะสู้กับร้านอื่นได้หรือไม่

เงินทุน

สิ่งต่อมาสำคัญที่สุดที่คุณจะต้องมี นั่นคือ เงินลงทุน ซึ่งอย่างน้อยๆ คุณจะต้องมีเงินลงทุน 200,000 บาทขึ้นไปถึงจะสามารถเปิดร้านขายของชำเป็นของตัวเองได้ เแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของร้านที่คุณจะเปิดด้วย

เลือกทำเลให้ดี

ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง คำๆนี้ยังสามารถใช้ได้ในปัจจุบัน หากคุณออกแบบร้านขายของชำได้สวย การบริหารจัดการดี ทุกอย่างดีหมดแต่ถ้าหากอยู่ในทำเลที่ไม่ดีก็อาจจะเจ๊งได้เหมือนเดิม ดังนั้นการเลือกทำเลเป็นอีกตัวที่สำคัญมาก คุณควรเลือกทำเลที่มีคนพลุกพล่าน อาจจะเป็นแหล่งชุมชน ใกล้โรงเรียนหรือใกล้มหาวิทยาลัย เป็นต้น

หาซัพพลายเออร์

สิ่งต่อมาที่คุณควรมองหาก็คือแหล่งสินค้าราคาถูก ก่อนจะซื้อสินค้าจากแหล่งซัพพลายเออร์ใดควรเปรียบเทียบราคาและต้นทุนในการขนส่งแต่ละที่ก่อนเสมอ เพื่อที่เราจะได้ประหยัดต้นทุนมากที่สุดนั่นเอง ซึ่งร้านค้าขนาดเล็กอย่างร้านขายของชำก็สามารถต่อรองขอส่วนลด ขอสินค้าตัวอย่าง หรือของแถมเล็กๆ น้อยๆ จากซัพพลายเออร์ได้เช่นเดียวกับร้านค้าปลีกใหญ่ๆ 

ร้านของชำ

 

ปรับตัวเป็น ร้านขายของชำยุคใหม่ ให้อยู่รอด

ภาพจำเดิมๆ ของร้านขายของชำที่ทุกคนเคยเจอ คือ เป็นร้านค้าเล็กๆ อับๆ มืดๆ สินค้าไม่หลากหลาย อีกทั้งยังวางระเกะระกะไม่เป็นระเบียบหรือบางครั้งอาจมีฝุ่นเกาะตามชั้นวางของ จนลูกค้าไม่กล้าเข้ามาใช้บริการกันเลยทีเดียว ฉะนั้นร้านขายของชำเดิมๆ จึงควรมีการยกระดับและทำการลบภาพจำเดิมๆ ออกไป เพื่อปรับตัวให้อยู่รอดได้ในยุคนี้

จุดบริการเสริม 

การขายสินค้าเพียงอย่างเดียวคงไม่พออีกต่อไป สิ่งหนึ่งที่เป็นตัวเรียกลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ นั่นคือ ร้านขายของชำต้องมีจุดบริการเสริมต่างๆ เช่น

  • ตู้กดน้ำดื่มหยอดเหรียญ
  • ตู้เติมเงิน
  • ตู้เติมน้ำมันขนาดเล็ก
  • การบริการ โอนเงิน
  • บริการถ่ายเอกสาร
  • เครื่อง POS

ถ้าร้านขายของชำมีจุดบริการเสริมเหล่านี้ จะยิ่งเรียกลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้มากยิ่งขึ้น เมื่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการเสริมเหล่านี้แล้ว ก็อาจจะมีการซื้อสินค้าภายในร้านติดไม้ติดมือกลับไปด้วย ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเหล่านี้อีกที

มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย

แน่นอนว่าเมื่อคุณเปิดร้านขายของชำแล้วลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการไม่ได้มีเพียง กลุ่มเป้าหมาย เดียวอย่างแน่นอน ฉะนั้นคุณควรมีสินค้าที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกเพศทุกวัยที่จะเข้ามาใช้บริการด้วย ทั้งสินค้าเด็กเล็ก เด็กโต วัยรุ่นหรือสินค้าของผู้ใหญ่ ซึ่งลูกค้าแต่ละคนก็มีความชอบที่แตกต่างกัน ในสินค้าหนึ่งชนิดจึงต้องมีหลากหลายยี่ห้อเพื่อให้ลูกค้าได้เลือกซื้อตามใจชอบ แต่มีสิ่งที่คุณต้องระวังเมื่อร้านมีสินค้าหลากหลาย นั่นคือ ต้องสังเกตให้ดีว่าสินค้าชนิดใดที่ขายดีก็ควร สต็อกสินค้า นั้นไว้ในปริมาณมากๆ และสินค้าชนิดใดที่ขายไม่ค่อยดี ก็ควรสต็อกของไว้เพียงน้อยๆ ก็พอ เพื่อกันไม่ให้สินค้าประเภทนั้นหมดอายุก่อนที่จะจำหน่ายออกไปได้นั่นเอง

จัดร้านให้สวยงาม

ร้านขายของชำแบบดั้งเดิมรูปแบบของร้านไม่ได้เน้นออกแบบมาให้ดูสวยงามหรือจัดวางสินค้าอย่างเป็นระบบอะไรมากนัก อีกทั้งความสะอาดภายในร้านก็ติดลบ จึงเป็นสาเหตุให้ลูกค้าไม่เข้ามาใช้บริการ ฉะนั้นคุณควรจัดร้านให้สวยงามหมั่นทำความสะอาดร้านอยู่เสมอและต้องจัดวางสินค้าให้เป็นหมวดหมู่ เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อให้ลูกค้าสามารถหาเจอได้ง่าย

ร้านของชำ

 

เพิ่มการบริการส่งถึงบ้าน

ในยุคนี้ใครๆ ก็ต้องการความสะดวกสบายทั้งนั้น สิ่งหนึ่งที่คุณควรจะต้องเพิ่มเข้ามา คือ การบริการส่งถึงบ้านหรือเดลิเวอรี เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งถ้าคุณไม่มีกำลังมากพอในการที่จะจัดการเอง ก็อาจจะเข้าร่วมกับพาร์ทเนอร์ ที่เป็นแพลตฟอร์มให้บริการเดลิเวอรีโดยเฉพาะ อย่างเช่น แกร็บฟู้ด ไลน์แมน เป็นต้น

มีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย

ร้านขายของชำแบบเดิมๆ มักจะมีช่องทางการชำระเงินสดเพียงอย่างเดียว ซึ่งขัดกับยุคในปัจจุบันนี้ที่ผู้คนมักจะไม่ค่อยพกเงินสดกันมากนัก ดังนั้นจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยโดยเพิ่มช่องทางการชำระเงินให้มีความหลากหลาย

ความตั้งใจ

เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญสำและ ผู้ประกอบการ ร้านขายของชำจำเป็นต้องมี เพราะถ้าหากมีแค่เงินเพียงอย่างเดียวแต่ไม่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจในการที่จะพัฒนาร้านขายของชำให้ดีขึ้นหรือไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงร้านขายของชำ ให้มีความแหวกแนวไปจากเดิม ธุรกิจของคุณก็ไม่สามารถไปต่อได้แน่นอน

เชื่อมต่อทั้งออนไลน์และออฟไลน์

อีกสิ่งหนึ่งที่ร้านขายของชำในยุคปัจจุบันต้องทำ คือ การทำการตลาดทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ หรือที่เราเรียกกันว่า Omni Channel นั่นเอง ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถติดต่อกับผู้ขายได้หลากหลายช่องทางทั้งทาง การตลาดออนไลน์ หรือ Digital Marketing การตอบแชทผ่านเพจ Line OA หรือการตอบแชทผ่านเพจเฟสบุ๊คของร้านและทางออฟไลน์ที่ลูกค้าสามารถเข้ามาติดต่อด้วยตัวเองผ่านหน้าร้าน สิ่งนี้จะยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายและสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้อีกแน่นอน 

โปรโมชั่น

โดยทั่วไปแล้วร้านขายของชำแบบเดิมๆ จะไม่มีการจัดทำโปรโมชั่น นั่นจึงไม่สามารถดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการได้เท่าที่ควร แต่ถ้าหากร้านไหนมีการจัดทำโปรโมชั่นแล้วละก็ จะยิ่งดึงดูดให้ลูกค้าเกิดความอยากซื้อมากยิ่งขึ้นแน่นอน ซึ่งการจัดทำโปรโมชั่นของร้านขายของชำก็สามารถทำได้หลากหลายวิธีเช่นเดียวกับร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาเก็ต เช่น บัตรสะสมแต้ม (loyalty program) ระบบสมาชิก คูปองส่วนลด หรือโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะเกินความสามารถของผู้ประกอบการ ฉะนั้นคุณจึงต้องมีตัวช่วยอย่าง แพลตฟอร์ม CRM เพื่อเข้ามาดูแลด้านนี้โดยเฉพาะหรือคุณอาจจะเลือกใช้บริการ Funcrow ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม CRM ที่มีประสบการณ์มากมาย ที่สามารถเสนอโปรโมชั่นให้ตรงใจลูกค้าเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้ อีกทั้งยังช่วยสร้างฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายให้กับผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าครบจบในระบบเดียว โดยคุณสามารถเข้ามาดูผลงานของ Funcrow บนเว็บไซต์ก่อนได้ เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกใช้บริการ 

สิ่งที่ทำให้ร้านขายของชำยังอยู่ได้

ในยุคที่ร้านสะดวกซื้อผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดจนแทบจะกลืนกินร้านเล็กๆ หายไป แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ร้านขายของชำสามารถดำรงอยู่ในยุคนี้ได้และสามารถแข่งขันกับร้านค้าปลีกใหญ่ๆ จนสามารถครองใจลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำได้ 

มีสินค้าหายาก หรือ Rare Item ที่ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ไม่มี

สิ่งหนึ่งที่ร้านสะดวกซื้อหรือซูเปอร์มาเก็ตไม่มีนั่นคือ สินค้าหายาก หรือ สินค้า Rare Item ไม่ว่าจะเป็นสินค้าท้องถิ่น เช่น หวดนึ่งข้าว กระติ๊บข้าว ไม้กวาดดอกหญ้าหรือแม้แต่ของเล่นหรือขนมย้อนยุคต่างๆ เป็นต้น ซึ่งสินค้าเหล่านี้ไม่มีขายตามร้านสะดวกซื้อหรือซุปเปอร์มาเก็ต แต่เราสามาถหาซื้อได้ตามร้านขายของชำ 

เป็นกันเอง

ความเป็นกันเองและอัธยาศัยดี เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของร้านของชำ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาใช้บริการก็จะเป็นญาตพี่น้องหรือคนในชุมชน จึงมีการพูดคุยและสอบถามความต้องการของผู้บริโภคได้ ไม่เหมือนกับร้านสะดวกซื้อที่เราแค่เข้าไปซื้อของเพียงเท่านั้น ไม่มีการพูดคุยถามไถ่กันใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งจุดนี้นี่เองที่ทำให้ร้านขายของชำได้เปรียบร้านสะดวกซื้อหรือร้านค้าปลีกสมัยใหม่เป็นอย่างมาก เพราะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดีกว่านั่นเอง

บทสรุป ร้านของชำ

ในปัจจุบันร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีกสมัยใหม่และซูเปอร์มาเก็ตเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการร้านค้าขนาดเล็กเป็นอย่างมาก ถ้าผู้ประกอบการขนาดเล็กเหล่านั้นไม่มีการพัฒนาหรือไม่ทำการเปลี่ยนแปลงให้ร้านขายของชำแตกต่างไปจากเดิม ร้านค้าปลีกสมัยใหม่เหล่านี้ก็อาจจะกลืนกินร้านขายของชำจนไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้อีกต่อไป ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ร้านขายของชำจะต้องปรับตัวให้อยู่ได้ในยุคที่ร้านสะดวกซื้อครองเมือง

 

ยังไม่มีระบบ CRM ? Funcrowd ช่วยได้ เพราะเรามีระบบ CRM ที่สามารถตอบโจทย์ธุรกิจของคุณได้อย่างแน่นอน อย่ารอช้า!ติดต่อเราได้ที่
Line : https://lin.ee/5VMoPga
Facebook : www.facebook.com/FunCrowdTH
Instagram : https://www.instagram.com/fundcrowdth/

 

 

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า